สนาม: เครือข่ายคนโหน่ง
บทนำ:2กค61-ที่ศาลอาญา ถรัชดาภิเษก พตทสันธนะ ประยูรรัตน์ อายุ 59 ปี อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล 2 ในฐานะประธานที่ปรึกษา บริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด ผู้ต้องหาในคดีกรรโชกทรัพย์ตลาดใหม่ดอนเมือง เดินทางมารายงานตัวต่อศาล หลังครบกำหนดฝากขัง 4 ผัด รวม 48 วัน ตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังของศาล ซึ่งล่าสุดในคดีนี้ พตทสันธนะ และพนักงานตลาดที่ถูกกล่าวหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์กลุ่มผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมืองได้ถูกอัยการยื่นฟ้องต่อศาลอาญาไปเมื่อวันที่ 29 มิย ที่ผ่านมาพตทสันธนะ กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ (29 มิย) ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แถลงข่าวว่าได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องตนเองและผู้เกี่ยวข้องในคดีรวม 11 คน อยากจะเรียนให้สังคมทราบว่ากระบวนการสอบสวนเป็นเบื้องต้น ชั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคู่ปรปักษ์กับตนเองมาโดยตลอด จึงไม่แปลกใจที่พนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเห็นสั่งฟ้อง แต่แปลกใจในเรื่องรายละเอียดของคดีตามแถลงข่าว รวมถึงข้อมูลในสำนวนการสอบสวน ปรากฏว่าคดีนี้ผู้เสียหายในคดี 11 คน เป็นกลุ่มผู้ค้าที่ตลาดใหม่ดอนเมือง มีพยาน 9 คน ความเสียหายทั้งสิ้น 770,000 กว่าบาท ในช่วงเวลา 2 ปี มีการกรรโชกทรัพย์ความเสียหายเพียงแค่ 7 แสนกว่าบาท แล้วไม่ทราบพวกตนเอง 10 กว่าคนไปแบ่งกันใช้ยังไงพตทสันธนะ กล่าวต่อไปว่า ตนเองถึงบอกว่ามันไปไม่ได้แล้ว คุณหาพยานหลักฐานอะไรไม่ได้ เสียใจกับผู้เสียหายและเป็นผู้กล่าวหาตนเองในคดีนี้ทั้ง 11 คน ว่าคุณตกเป็นเหยื่อของกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้นที่ไม่ยุติธรรม ส่วนตัวคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนก็น่าจะมีอนาคตเป็นผู้อำนวยความยุติธรรมให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ ดูท่าเหมือนราชสีห์ แต่ถึงเวลาจริงๆ ถูกสัตว์เลื้อยคลานดึงหางไปก็ตามเขา เพียงเพื่อหวังทะเยอทะยานในตำแหน่งสูงสุดขององค์กร ไม่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อประชาชน ตนเองจะบอกสังคมต่อไปว่ามันมีเหตุที่มาที่ไปอย่างไร ตั้งคณะพนักงานสอบสวน 174 คน สรุปสำนวนได้เท่านี้ อย่างที่บอกมันไม่มีการกระทำผิด ไม่มีเหตุเกิดขึ้นจริง สิ่งที่เขาพยายามยัดเยียดกล่าวหาตนก็ทำไม่ได้ตามเป้า วันนี้ก็สิ้นสุดขอบเขตอำนาจของพนักงานสอบสวนแล้วผู้สื่อข่าวถามว่าได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการหรือไม่ พตทสันธนะ กล่าวว่า ไม่ร้อง แต่ผู้ต้องหาอื่นก็แล้วแต่ ทราบว่ามีการไปร้องต่ออัยการสูงสุด ก็เป็นดุลยพินิจของท่านอัยการสูงสุด อยากให้มีคำพิพากษาของศาลออกมา ถ้าตนเองไปร้องอัยการสูงสุดแล้วท่านมีความเห็นแย้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อในรายละเอียดของตนเอง ก็ต้องใช้เวลาอีกเยอะ กว่าจะส่งสำนวนไปให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบตร) พิจารณา แน่นอน ผบตรก็คู่กรณีคู่ปรปักษ์ใช้วิธีการมากมายที่จะยื้อคดีไม่ใช่ประสงค์ของตนเอง ทั้งนี้อยากเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ตกใจกับการเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากเย็น เมื่อคดีมีคำพิพากษาออกมาแล้วตนเองไม่ได้กระทำผิดใครคือคนรับผิดชอบ ไม่เป็นไรเปิดหน้าสู้ แต่เอาคนอื่นมาเกี่ยวข้องมาแถลงเหมือนเป็นกระบวนการยุติธรรมขั้นสูงสุดพิพากษาเขาหมด กล่าวหาแบบนั้นแบบนี้เดี๋ยวคุณโดนบ้างเหมือนที่ทำกับพวกเขาเมื่อถามถึงกรณีที่เคยบอกว่าจะยื่นฟ้องนายพล พตทสันธนะ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ติดขัดทางคดี เขาไม่มอบเอกสารอะไรให้เลย เมื่อวันศุกร์ถึงต้องไปทวงเอง คุณกลัวทำไมในเมื่อเปิดหน้าทุกคนก็ทราบแล้ว เราไม่ใช่คดีปกติ เป็นเรื่องระหว่างพวกคุณกับผม ถึงบอกว่าจะชี้ให้สังคมทราบว่ามีเหตุอะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมถึงต้องออกมาล่อเป้าเมื่อถามว่าทางอัยการมีคำสั่งฟ้องมาอย่างไรได้ดูหรือไม่ พตทสันธนะ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ท่าน เมื่อตำรวจสรุปสำนวนสั่งฟ้องส่งให้อัยการแล้ว วันนี้หมดอำนาจควบคุมฝากขังของทางอัยการก็สุดแท้แต่ ถ้ายื่นฟ้องไม่ทันก็ต้องปล่อยตัว แต่เชื่อว่าในคดีท่านคงยื่นฟ้องได้ทัน เพราะไม่มีในส่วนของตนเอง ซึ่งได้ปฏิเสธไม่ให้การในชั้นอัยการด้วย ก็ไม่มีเหตุอะไรที่ท่านจะไม่ฟ้อง ซึ่งก็น้อมรับในชั้นนี้ ในชั้นศาลก็ต่อสู้เต็มที่แน่นอน ไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว ประเทศนี้น่าอยู่ต่อมา พตทสันธนะ เปิดเผยหลังการรายงานตัวว่า ในคดีนี้ตนเองก็จะต้องเดินทางมาศาลอีกครั้งในวันที่ 4 กคนี้ พร้อมกับพนักงานตลาดที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมด้วยอีก 10 คน ตามที่ศาลอาญานัดหลังจากอัยการได้ยื่นฟ้องตนกับพนักงานตลาดรวม 11 คน ไว้แล้ว ซึ่งตนเองก็จะเดินทางมาตามนัดในเวลา 900 นผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พตทสันธนะ ประยูรรัตน์ อายุ 59 ปี, นายชนะโชติ หรือตั๋ม สุขสุคนธ์ อายุ 40 ปี, นายวรรณชัย หรือแก้ว ใจเรือง อายุ 36 ปี, นายวันเพ็ญ ผิวดำดี อายุ 51 ปี, นายสิริชัย หรือชัย เหล่ากุลประสิทธิ์ อายุ 65 ปี, นายประนอม หรือนอม แก้วสวัสดิ์ อายุ 59 ปี, นายกฤษณะ หรือตั้ม หลำรอด อายุ 41 ปี, นายคเณศ หรือต้น เปรมครุฑ อายุ 42 ปี, นายอดิศักดิ์ หรือโต้ง จันทร์ศรี อายุ 39 ปี, นายอนุชา หรือทอม วรเดช อายุ 53 ปี และนายอนุ หรือตุ๋ย สุขสุคนธ์ อายุ 41 ปี เป็นจำเลยที่ 1-11 ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์และซ่องโจร โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ1951/2561 นัดสอบคำให้การวันที่ 4 กคนี้ในเวลา 830 น...
ลิงค์ที่เป็นมิตรเวลาปัจจุบัน:2021-03-08